บริษัท กรี อิเลคทริค (ไทยแลนด์) จำกัด (ต่อไปนี้จะเรียกรวมว่า “บริษัท”) เป็นผู้ประกอบธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีกเครื่องปรับอากาศยี่ห้อ GREE ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในความเป็นส่วนตัว (Privacy Right) ที่ต้องได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และหลักปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (Universal Declaration of Human Rights) ประกอบกับเพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปตามแนวทางที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้กำหนดไว้ บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Policy) ขึ้น โดยนโยบายนี้ได้อธิบายถึงวิธีการที่บริษัทปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผย รวมถึงสิทธิต่างๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น เพื่อให้เจ้าของข้อมูลได้รับทราบถึงนโยบายและแนวทางในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท และเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าของข้อมูล
บทที่ 1. ขอบเขตการบังคับใช้นโยบายนี้ใช้บังคับ สำหรับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกที่ บริษัทฯ มีปฏิสัมพันธ์ด้วย ทั้งนี้ รวมถึงการนำเสนอสินค้า/ผลิตภัณฑ์ /บริการของ บริษัทฯ และการจัดซื้อจัดจ้าง โดยหมายความถึง
(1) ลูกค้าและ/หรือผู้ว่าจ้างที่เป็นบุคคลธรรมดา (รวมถึงผู้ที่อาจเป็นลูกค้าและ/หรือผู้ว่าจ้างในอนาคต และบุคคลอื่นที่มีธุรกรรม เกี่ยวเนื่องกับสินค้า/ผลิตภัณฑ์ / บริการของบริษัทฯ)
(2) พันธมิตรทางธุรกิจซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา
(3) บุคคลผู้มีอำนาจดำเนินการแทน ผู้แทนนิติบุคคล กรรมการ ผู้ถือหุ้น พนักงาน ตัวแทน บุคลากร บุคคลใดๆ ผู้ได้รับมอบอำนาจให้ดำเนินความสัมพันธ์ทางธุรกิจ รวมทั้งบุคคลอื่นใด ที่มีฐานะทำนองเช่นว่านั้น (เรียกรวมว่า "บุคคลที่เกี่ยวข้องกับนิติบุคคล") ของ นิติบุคคลที่เป็นลูกค้าและ/หรือผู้ว่าจ้าง ของบริษัทฯ (รวมถึงนิติบุคคลผู้ที่อาจเป็นลูกค้าและ/หรือผู้ว่าจ้างในอนาคต และนิติบุคคลอื่นที่มีธุรกรรมเกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ / บริการของบริษัทฯ), นิติบุคคลที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ, หน่วยงานที่ขอรับการสนับสนุนจาก บริษัทฯ, บุคคลอื่นๆ เช่น คู่สัญญา รวมทั้งบุคคลที่เป็นพยานในสัญญา ไม่ว่าในรูปแบบใด ผู้ใช้สิทธิตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ ผู้ได้รับสิทธิประโยชน์หรือสวัสดิการจากบริษัทฯ (ผู้รับทุนการศึกษา ผู้รับบริจาค) ผู้ร้องเรียน
(4) พนักงาน เจ้าหน้าที่ของบริษัททุกคน
(5) บุคคลอื่นใดนอกจากที่ระบุเอาไว้ในข้อ (1), (2), (3) และ (4) และ ซึ่งติดต่อหรือทำธุรกรรม กับบริษัทฯ ในประการอื่นตลอดจนบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับบุคคลข้างต้น ซึ่งบริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลมา (เรียกรวมกันว่า “ท่าน”)
บทที่ 2. นิยาม“บริษัท” หมายถึงบริษัท บริษัท กรี อิเลคทริค (ไทยแลนด์) จำกัด
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล ซึ่งทำให้สามารถระบุถึงตัวบุคคลนั้นได้ เป็นต้นว่า ชื่อ สกุล ที่อยู่ วัน เดือน ปีเกิด เพศ ประวัติการศึกษา หมายเลขโทรศัพท์ เลขประจำตัวประชาชน เลขหมายรหัส และให้หมายความรวมถึงข้อมูลอื่นใดเกี่ยวกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมแต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม
“ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” (Sensitive data) หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใด ซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
"เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง บุคคลใดๆ ผู้เป็นเจ้าของข้อมูลของตนเอง ซึ่งบริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมนั้น ที่สามารถระบุหรือเชื่อมโยงถึงซึ่งรวมถึงบุคคลตามที่ระบุไว้ในข้อ 1 (ขอบเขตการบังคับใช้) ของนโยบายนี้
"ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่ง หรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการ ดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
“บุคคล" หมายถึง บุคคลธรรมดา
ทั้งนี้ ให้คำนิยามข้างต้นเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎระเบียบอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
บทที่ 3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม และการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัดบริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งได้ชี้แจง ไว้ในนโยบายนี้ โดยใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นธรรมในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่ บริษัทฯ ประสงค์จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในนโยบายนี้ บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบ และอาจขอความยินยอมจากท่านในกรณีที่ต้องได้รับความยินยอม
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัด เพียงข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่านในหมวดหมู่และประเภทดังต่อไปนี้
(3.1) ข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่ท่านติดต่อหรือทำธุรกรรมกับบริษัทฯ
บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นข้อมูลที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของลูกค้าและ/หรือผู้ว่าจ้างได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ได้แก่ ข้อมูลที่ลูกค้าและ/หรือผู้ว่าจ้าง ให้ไว้โดยตรงจากการลงทะเบียนผ่านระบบออฟไลน์และ/หรือระบบออนไลน์ สำหรับการลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของบริษัทฯ ทั้งนี้ คุกกี้ ข้อมูลการทำรายการ ตลอดจนประวัติ และประสบการณ์การใช้งานผ่านหน้าเว็บไซต์ ผู้ที่ได้รับมอบหมาย หรือช่องทางอื่นใด อันได้แก่
- ข้อมูลส่วนตัว เช่น คำนำหน้าชื่อ ยศ / ตำแหน่ง ชื่อ นามสกุล เพศ อายุ สถานภาพ ทางการสมรส สัญชาติ วันเดือนปีเกิด กรุ๊ปเลือด ลายมือชื่อ ภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหวจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ข้อมูลส่วนบุคคลที่ ปรากฏในสำเนาเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ (เช่น บัตร ประจำตัวประชาชน บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือบัตรอื่นๆ หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตทำงาน ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส เอกสารการเปลี่ยนชื่อสกุล ใบสำคัญ การสมรส ใบสำคัญการหย่า หนังสือรับรองการแยกกันอยู่ มรณบัตร ใบอนุญาตขับขี่ ใบแทน / บัตรชั่วคราว) ข้อมูลจากแหล่งสาธารณะ (เช่น อินเทอร์เน็ต สื่อสิ่งพิมพ์)
- ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่อาศัย สถานที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ไอดีไลน์
- ข้อมูลทางการเงิน เช่น สถานะข้อมูลเครดิต สถานะกฎหมาย และ สถานะการล้มละลาย เลขที่บัญชี เงินฝาก ประวัติการทำรายการผ่านบัญชีเงินฝาก / หลักฐานการแสดงฐานะการเงินอื่น ๆ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี Token ID
- ข้อมูลบันทึกการติดต่อกับบริษัทฯ เช่น ใบสมัครงาน, คำขอใช้บริการ ข้อร้องเรียนและบันทึกผลการสอบทานข้อเท็จจริง คำร้องขอเปลี่ยนแปลงข้อมูล บันทึกเสียงสนทนาทาง โทรศัพท์
- ข้อมูลเชิงเทคนิคหรือข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือ เช่น บันทึกผู้เข้าชมเว็บไซต์ (Log Files) ซึ่งรวมถึงข้อมูลเชิงเทคนิค (เช่น Internet Traffic, IP Address, Log, User Information) และข้อมูล สถิติการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทฯ โดย บริษัทฯ มีการใช้งานคุกกี้ (Cookies) ซึ่งอาจมีการเก็บรวมรวมข้อมูลบางประเภทที่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลIP Address MAC Address Cookie ID
- ข้อมูลอื่นๆ เช่น การใช้งานเว็บไซต์ เสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และข้อมูลอื่นใดที่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวประวัติอาชญากรรม (เช่น ข้อมูลตามที่ปรากฏในรายชื่อบุคคล ถูกกำหนด (Sanction List) และบุคคลเฝ้าระวัง (Watch List) ที่ออกโดยหน่วยงานรัฐที่มีอำนาจ ซึ่งอาจทำให้บริษัทฯ ทราบถึง ประวัติอาชญากรรมอันเกี่ยวข้องกับความผิดมูลฐานต่างๆ ความผิดฐานก่อการร้ายหรือสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ข้อมูลการล้มละลายจากการทุจริต)ความคิดเห็นทางการเมือง (เช่น ข้อมูลตามที่ปรากฏในรายชื่อ บุคคลถูกกำหนด (Sanction List) และบุคคลเฝ้าระวัง (Watch List) หรือฐานข้อมูลอื่นใด ซึ่งอาจทำให้บริษัทฯ ทราบถึง สถานภาพทางการเมือง)ความพิการ (เช่น สำนาบัตรประจำตัวผู้พิการ ประเภทความ ทุพพลภาพ หนังสือรับรองจากสมาคมคนพิการ)ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ลายพิมพ์นิ้วมือ ภาพถ่ายจำลองใบหน้า)
ในกรณีที่ท่านเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับนิติบุคคล บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นใดเกี่ยวกับท่าน ตามที่ปรากฏในเอกสารนิติบุคคล (เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ปรากฏในหนังสือรับรอง หนังสือจัดตั้งนิติบุคคล หนังสือบริคณห์สนธิ รายงานการประชุม เอกสารบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (บอจ.5) เป็นการเพิ่มเติมด้วย
ในกรณีที่บริษัทฯ ไม่สามารถเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่จำเป็นต่อการดำเนินงาน ของบริษัทฯ บริษัทฯ อาจไม่สามารถให้บริการแก่ท่านได้อย่างเหมาะสม หรือปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา หรือดำเนินการตามความสัมพันธ์ที่มีระหว่างกันได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ตลอดจนอาจส่งผลกระทบต่อการปฎิบัติตามกฎหมายใดๆ ที่บริษัทฯ หรือท่านมีหน้าที่ ต้องปฎิบัติตาม
(3.2) ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สาม
ในกรณีที่ท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามแก่บริษัทฯ (เช่น คู่สมรส (ไม่ว่าจะจดทะเบียนสมรสหรือไม่ก็ตาม) บุตร บุพการี ผู้ติดต่อกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง รวมทั้งบุคคลอื่นใดตามเอกสารการทำธุรกรรม และเอกสารใบอนุญาตจากทางราชการ (เช่น พยาน ผู้รับเงิน เจ้าหน้าที่ บุคคลที่ปรากฏในทะเบียนบ้าน)) หรือท่านขอให้ บริษัทฯ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามดังกล่าวแก่บุคคลภายนอก ท่านตกลงรับผิดชอบในการแจ้งรายละเอียดตามนโยบายนี้ ให้แก่บุคคลที่สามดังกล่าวนั้นทราบ ตลอดจน ขอความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวนั้น (หากเป็นกรณีที่ต้องได้รับความยินยอม) ท่านควรตรวจสอบความ ถูกต้องและความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้แก่บริษัทฯ และแจ้งให้บริษัทฯ ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ไว้ นอกจากนี้ ท่านยังมีหน้าที่ดำเนินการเพื่อให้บริษัทฯ สามารถเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลเหล่านั้นได้ตามกฎหมาย ตามที่ กำหนดไว้ในนโยบายนี้ด้วย
(3.3) ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ และคนเสมือนไร้ความสามารถ
บริษัทฯ ไม่มีความตั้งใจที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลซึ่งเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือ คนเสมือนไร้ความสามารถ เว้นแต่บริษัทฯ จะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ (ในกรณีที่ต้องได้รับความยินยอมและผู้เยาว์ไม่สามารถให้ความยินยอมได้ด้วยตนเองตามกฎหมาย) ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาลก่อน (แล้วแต่กรณี) ทั้งนี้ หากบริษัทฯ ทราบว่า บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวม ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทน ผู้เยาว์ (ในกรณีที่ต้องได้รับความยินยอมและผู้เยาว์ไม่สามารถให้ความยินยอมได้ด้วยตนเองตามกฎหมาย) หรือเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคนเสมือนไร้ความสามารถหรือคนไร้ความสามารถโดยมิได้รับความยินยอมจากผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาล (แล้วแต่กรณี) โดยไม่ได้เจตนา บริษัทฯ จะดำเนินการเพื่อลบข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้นโดยเร็วเท่าที่จะปฏิบัติได้ เว้นแต่ บริษัทฯ จะมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายประการอื่น นอกเหนือจากความยินยอมที่จะสามารถเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้นได้
บทที่ 4.ช่องทางการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง ผ่านทางช่องทางแบบออนไลน์และออฟไลน์ที่แตกต่างกัน ตามความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง
(4.1) ช่องทางออฟไลน์ เช่น ณ ที่ ทำการ (เช่น สาขา สำนักงานใหญ่ สาขา และ/หรือจุดจำหน่ายสินค้าของบริษัทฯและจุดจำหน่ายสินค้าของตัวแทนจำหน่ายทุกประเภทของบริษัท) จดหมาย การออกอีเว้นท์ การออกบูธ การเดินประชาสัมพันธ์ หรือการให้บริการนอกสถานที่ (Virtual Branch) และ
(4.2) ช่องทางออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ www.greethailand.com บล็อก และ Landing Page ของบริษัทฯ โทรศัพท์ ข้อความ สื่อสาร (SMS) สื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงแชทบอท (Chatbot) อีเมล (โปรดดูข้อมูลตามตาราง)
ลำดับ | กลุ่มงานบุคคล/สินค้า/บริการ | รายละเอียดของช่องทางออนไลน์ |
---|---|---|
1. | ฝ่ายบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล | • Line official : @Hrgreethailand |
2. | กลุ่มสินค้า/ผลิตภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศ แบรนด์ Gree Electric | • Website: https://www.greethailand.com • Facebook: Gree Thailand • Line official: @Greethailand • Youtube: https://www.youtube.com/c/Gree Thailand • Instagram: gree_thailand • TIK TOK: greethailand |
ในกรณีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านทางแอปพลิเคชัน เว็บไซต์ บล็อก Landing Page สื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงแชทบอท (Chatbot) หรือบริการออนไลน์ต่างๆ บริษัทฯ อาจ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยวิธีการที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การรับเรื่องร้องเรียน การขอเปลี่ยนแปลงที่อยู่ติดต่อ การสอบถามข้อมูล การขอให้ดำเนินการอื่นใด การเสนอความคิดเห็น และการติดต่อบริษัทฯ โดยเหตุประการอื่น
บริษัทฯ อาจผสานรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากท่านโดยตรงตามช่องทางข้างต้นเข้ากับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ ได้รับมาจากแหล่งอื่นในกรณีที่มีความจำเป็นและได้รับความยินยอมจากท่าน เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทฯ ได้รับการยกเว้น ตามกฎหมาย ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้มีความสมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน รวมทั้ง เพื่อปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพของการให้บริการของบริษัทฯ ให้ดียิ่งขึ้น โดยบริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคล จากแหล่งอื่นซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง
(4.2.1) ผู้ให้บริการภายนอก เช่น ผู้ให้บริการทำนิติกรรม, ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์, ผู้ให้บริการศึกษาข้อมูล (Research Agency), ผู้ให้บริการติดตามทวงถามหนี้, ผู้ให้บริการรับชำระเงิน, ผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลลูกค้า (Call Center), ผู้ให้บริการทางการตลาด (Marketing Agency) ที่ให้บริการบริหารช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ เป็นต้น
(4.2.2) พันธมิตรทางธุรกิจ เช่น พันธมิตรทางธุรกิจเพื่อการให้สิทธิประโยชน์ลูกค้า, เว็บไซต์ของพันธมิตรทางธุรกิจ, ตัวแทนรับชำระเงิน เป็นต้น
(4.2.3) หน่วยงานภาครัฐ เช่น กรมสรรพากร, สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค, หน่วยงานศาลยุติธรรม, สำนักงานประกันสังคม, กรมบังคับคดี, กรมการปกครอง เป็นต้น
(4.2.4) ช่องทางอื่น ๆ นอกจากที่ระบุไว้ข้างต้น เช่น บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด, ทนายความผู้ลงลายมือชื่อ (Notary Public), ธนาคารพาณิชย์อื่น ๆ, บุคคลที่สามตามสภาพแวดล้อม และ/หรือ บุคคลที่ถูกอ้างถึง (Referrals), ผู้ให้บริการฐานข้อมูล, แหล่งข้อมูลสาธารณะ (เช่น ราชกิจจานุเบกษาฯ BOL กรมพัฒนาธุรกิจการค้า) เป็นต้น
บทที่ 5. คุณภาพของข้อมูลส่วนบุคคล และวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทฯ อาจเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ตามที่ได้ชี้แจงไว้ ด้านล่าง ซึ่งเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ พันธกิจ และวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานของบริษัทฯตามที่กฎหมายกำหนด โดยอาศัยฐานตามกฎหมายดังต่อไปนี้
(5.1) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา สำหรับการเข้าทำสัญญาหรือ การปฏิบัติตามสัญญากับท่าน
(5.2) เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
(5.3) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลภายนอก โดยมีความสมดุลกับ ประโยชน์และสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวกับ การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
(5.4) เพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
(5.5) เพื่อประโยชน์สาธารณะ สำหรับการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
(5.6) เป็นการจำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย และ/หรือ
(5.7) ความยินยอมของท่าน
ทั้งนี้ เฉพาะวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องตามความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทฯ เท่านั้นที่จะมีผลใช้บังคับกับท่าน โดย บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงข้อมูลอื่นๆ ที่ท่านได้ให้ไว้เพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
- จัดเตรียมสินค้า/ผลิตภัณฑ์และการให้บริการแก่ท่าน การตรวจสอบสิทธิ์สำหรับการรับบริการรวมทั้งสิ่งที่ซื้อ ตลอดจนการส่งคำเสนอและแบ่งปันประสบการณ์ที่ดีให้แก่ท่าน
- เพื่อการแจ้งให้ท่านทราบถึงการพัฒนาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงซึ่ง สินค้า/ผลิตภัณฑ์ และการให้บริการ ทั้งนี้โดยไม่จำกัดเฉพาะเพียงแค่การเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไข ในนโยบายฉบับนี้
- เพื่อการแจ้งให้ท่านทราบถึง สินค้า/ผลิตภัณฑ์ และการให้บริการ ตลอดจนงานกิจกรรมใหม่ รวมทั้งสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ท่านจะพึงได้รับตามเงื่อนไขของบริษัทฯ
- เพื่อการปรับปรุงรูปแบบการนำเสนอสินค้า/ผลิตภัณฑ์ และการให้บริการ เพื่อให้ท่านได้รับความสะดวกในการเข้าถึงบริษัทฯ ไม่ว่าจะผ่านช่องทางออฟไลน์ หรือออนไลน์ผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.greethailand.com, แพลตฟอร์มออนไลน์ และช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ ของบริษัทฯ ตลอดจนการวิเคราะห์ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ในการตอบโจทย์การใช้งานของท่าน ด้วยวิธีการใดๆ ไม่จำกัดเฉพาะช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเพื่อการเสนอสินค้าหรือบริการให้แก่ท่าน ซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูล
- การจัดการบริหารงานบุคคล การสรรหา และ การพัฒนาทรัพยากรบุคคล ของบริษัทฯ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาสรรหาคัดเลือกบุคคล, เข้ามาร่วมงานกับบริษัท, เพื่อการบริหารจัดการงานบุคคล, เพื่อพัฒนาบุคคลากรให้มีศักยภาพที่ดี ร่วมพัฒนาบริษัทฯ ให้เจริญเติบโต ไปพร้อมกัน
- เพื่อการตรวจสอบ และ/หรือการยืนยัน กล่าวคือ การพิสูจน์และยืนยันตัวบุคคล การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและเอกสาร (เช่น การตรวจสอบ บุคคลที่ถูกกำหนด (Sanction List) และบุคคลเฝ้าระวัง (Watch List)) การรับและการตรวจสอบคำขอสมัครใช้ผลิตภัณฑ์ / บริการ การพิจารณา ก่อนให้ใช้ผลิตภัณฑ์ / บริการ การวิเคราะห์ความสามารถในการชำระหนี้ การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการนำเสนอผลิตภัณฑ์ / บริการ การพิจารณาคำขออื่นๆ
- เพื่อการติดต่อสื่อสารเช่น การติดต่อประสานงาน การแจ้งผลคำขอใช้ผลิตภัณฑ์ / บริการการสัมภาษณ์ การสำรวจความคิดเห็นลูกค้า และ/หรือผู้ว่าจ้าง การติดต่อกรณี ฉุกเฉิน
- เพื่อการดำเนินการทางการตลาดเช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การให้คำแนะนำและคำปรึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์/ บริการของบริษัทฯ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ / บริการผ่านช่องทางต่างๆ การแจ้งข่าวสารและสิทธิประโยชน์ การจัดกิจกรรมสานสัมพันธ์และกิจกรรมเชิญชวนให้เข้าร่วมกิจกรรมแจกรางวัล การส่งมอบของรางวัลจาก กิจกรรม การศึกษาความต้องการและการดำเนินการส่งเสริมการขายให้ตรง กับความต้องการ และ/หรือ กิจกรรมส่งเสริมการขายอื่น
- เพื่อการจัดการ / บริหารงานเช่น การจัดทำฐานข้อมูลลูกค้า การบันทึกข้อมูลลงในระบบ การจัดการงานเอกสาร การดำเนินกระบวนการปกปิดข้อมูล ( Data Masking) การตรวจสอบข้อมูลลูกค้าเพื่อการป้องกัน การรับมือ หรือการลดความเสี่ยง จากการจารกรรมข้อมูล จากการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือจากการกระทำอื่นใด การเฝ้าระวัง วิเคราะห์และตรวจสอบธุรกรรมที่ผิดปกติ (เช่น กรณีฉ้อโกง ทุจริต หรือที่มีความเสี่ยง) การตรวจสอบภาพรวมความเสี่ยงองค์กร การสืบ หาสาเหตุการเกิดหนี้ค้าง การติดตามทวงถามหนี้ การสืบทรัพย์ ยึดทรัพย์ อายัดทรัพย์ และการนำทรัพย์ขายทอดตลาด การดำเนินการเฉลี่ยทรัพย์ เพื่อชำระหนี้ การบริหารความเสี่ยงบริษัทฯ การวิเคราะห์ข้อมูลและจัดทำรายงานเพื่อการปรับปรุงหรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ / บริการ หรือกระบวนงาน ภายในของบริษัทฯ การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า การศึกษาความต้องการ เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ การประเมิน วิจัยการตลาดและจัดทำแบบจำลองธุรกิจ การประเมินผลผลิตภัณฑ์ การดูแล จัดการ พัฒนา และ รักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบปฏิบัติการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ อุปกรณ์ เครื่องมือ ระบบติดต่อสื่อสารการสร้างบัญชีผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน และการอนุญาตให้ใช้งานแอปพลิเคชันดังกล่าวแพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ แอปพลิเคชัน เว็บไซต์ และระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยี สารสนเทศ การดำเนินการสนับสนุนโครงการต่างๆ ของ บริษัทฯ ทั้งโดยเฉพาะ และ ที่ร่วมมือกับบุคคลที่สาม
- เพื่อการให้การสนับสนุนทางการเงินและการบริจาคเพื่อทำกิจกรรมทางสังคม CSR ให้การสนับสนุนทางการเงินและการบริจาค(เช่น เงินทุนการศึกษา เงินบริจาค หรือการสนับสนุนเป็นสาธารณประโยชน์อื่นๆ)
- เพื่อการปกป้องประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การใช้กล้องโทรทัศน์วงจรปิดเพื่อการสอดส่อง ดูแลและรักษาความมั่นคงปลอดภัยในพื้นที่ของบริษัทฯ การตรวจสอบ และจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์ การก่อตั้ง การปฏิบัติตาม การใช้ สิทธิ การยกขึ้นต่อสู้ และ/หรือ การดำเนินการตามกฎหมายอื่นใดซึ่งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของบริษัทฯ (รวมถึง การใช้เป็นหลักฐานทาง กฎหมาย การใช้ข้อมูลประกอบการแจ้งความร้องทุกข์ การเจรจาไกล่เกลี่ยการฟ้องร้องดำเนินคดี และการยุติคดี)
- เพื่อป้องกันหรือระงับเหตุอันตรายการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
- เพื่อการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลสถิติเกี่ยวกับประชากร (Demographic Information) บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมลู ส่วนซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับข้อมูลระบุตัวตนบุคคลของท่านได้ เพื่อนำไปใช้ในการวิเคราะห์ วิจัย หรือทำสถิติเพื่อเป็นข้อมูลสถิติเกี่ยวกับประชากร (Demographic Information) และ/หรือรายงานหรือข้อมูลเชิงสถิติอื่นๆ
- เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายและ/หรือ นโยบายของบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องเช่น การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไปยังหน่วยงานราชการหรือหน่วยงาน กำกับดูแลเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งของหน่วยงานภาครัฐที่มี อำนาจ การนำส่งข้อมูลให้ผู้ตรวจสอบบัญชี การนำส่งข้อมูลภาษีหัก ณ ที่จ่าย
- วัตถุประสงค์สำหรับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนความบกพร่องทางร่างกาย( ความพิการ ) และข้อมูลสุขภาพ (เช่น สำนาบัตรประจำตัวผู้พิการ ประเภทความทุพพลภาพ หนังสือรับรองจากสมาคมคนพิการ) ทั้งนี้เพื่อการเสนอขายและให้บริการอย่างเหมาะสม รวมทั้งการสื่อสารกับลูกค้าเพื่อสอบถามคุณภาพในการให้บริการบริหารจัดการด้าน การให้บริการลูกค้าอย่างเป็นธรรม (Market Conduct) เพื่อการรับและการตรวจสอบคำสั่งซื้อและ/หรือสั่งจ้าง ใช้ผลิตภัณฑ์ / บริการ รวมทั้งการยืนยันตัวตนเพื่อการพิจารณาคุณสมบัติในการเข้าร่วมโครงการต่างๆ ของ บริษัทฯ ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ลายพิมพ์นิ้วมือ ภาพถ่ายจำลองใบหน้า)เพื่อการทำความรู้จักลูกค้าด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Know Your Customer: e-KYC) ในการใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันเพื่อการพิสูจน์และยืนยันตัวตน ในกรณีที่ท่านพิมพ์ลายพิมพ์ นิ้วมือแทนการลงลายมือชื่อเพื่อการพิสูจน์และยืนยันตัวตนข้ามบริษัทฯ ผ่านแพลตฟอร์ม เนชั่นแนลดิจิทัล ไอดี (National Digital ID: NDID)
ในกรณีที่ท่านเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ และ/หรือ บุคคลที่เกี่ยวข้องกับนิติบุคคลของนิติบุคคลที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯบริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้ด้วยเพื่อการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างเช่น การพิจารณาคุณสมบัติ การคัดเลือกพันธมิตรทางธุรกิจ การพิสูจน์และยืนยันตัวบุคคล การตรวจสอบข้อมูล (เช่น การตรวจสอบบุคคลที่ถูกกำหนด (Sanction List) และบุคคลเฝ้าระวัง (Watch List) การตรวจสอบ ธุรกรรมการทิ้งงาน การตรวจความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (Conflict of Interest) และการตรวจสอบผลประโยชน์ทับซ้อน) การพิจารณาให้เข้าร่วม โครงการของบริษัทฯ การจัดซื้อจัดจ้าง การออกใบสั่งซื้อสั่งจ่าย การเข้าทำนิติกรรมหรือสัญญาที่เกี่ยวข้อง การสร้างบัญชีผู้ใช้งานระบบ การให้สิทธิใช้งานระบบ การส่งเรื่องขอเปลี่ยนตัวพนักงานรักษาความปลอดภัย เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการเข้าทำสัญญา การค้ำประกันความรับผิด การเปลี่ยนแปลงหลักประกัน การจัดการคำขอเข้าร่วมเป็นแหล่งเงินกู้ระยะยาว การขึ้นบัญชีผู้ประกอบการ และ/หรือ การเปลี่ยนแปลงคำร้องต่าง ๆ การจัดประชุม Meeting Vision และ/หรือ การดำเนินงานอื่นใดอันเป็นการ สนับสนุนการดำเนินงานของพันธมิตรทางธุรกิจ การพิจารณาต่อสัญญา การพิจารณาโทษ
หากมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม การใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล นอกเหนือ จากที่ระบุไว้ในนโยบายนี้ บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบและอาจขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่ต้อง ได้รับความยินยอม และหากมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม การใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จะทำการบันทึกแก้ไขเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐาน บทที่ 6. ข้อจำกัดในการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้(6.1) บริษัทฯ จะไม่เปิดเผย หรือแสดง หรือทำให้ปรากฏในลักษณะอื่นซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สอดคล้องกับ วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม การใช้ และ/หรือ เปิดเผย เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากท่านสำหรับกรณีที่ต้องได้รับความยินยอม หรือเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ พันธกิจ ระเบียบ และข้อยกเว้นตามกฎหมาย ที่กำหนดให้สามารถกระทำได้ หรือโดยคำสั่งศาล
(6.2) ในกรณีที่บริษัทฯ ได้ทำความตกลงกับบุคคลที่สาม เพื่อการดำเนินการอันเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูล ส่วนบุคคลของท่าน หรือการดำเนินการซึ่งจำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทฯ จะจัดให้บุคคลที่สามดังกล่าวได้รับทราบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพียงเท่าที่จำเป็นอย่างจำกัด อีกทั้งจะต้องสงวนรักษา ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นความลับตามมาตรฐานการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ตลอดจน ต้องผูกพันรับผิดชอบตามกฎหมายที่มีผลใช้บังคับ
บทที่ 7. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์ในการรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทได้มีมาตรการดังนี้
(7.1) กำหนดสิทธิในการเข้าถึง การใช้ การเปิดเผย การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการแสดงหรือยืนยันตัวบุคคลผู้เข้าถึงหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามแนวนโยบายสารสนเทศของบริษัทอย่างเคร่งครัด
(7.2) ในการส่ง การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ รวมถึงการนำส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บบนฐานข้อมูลในระบบอื่นใด ซึ่งผู้ให้บริการรับโอนข้อมูลหรือบริการเก็บรักษาข้อมูลอยู่ต่างประเทศ ประเทศปลายทางที่เก็บรักษาข้อมูลต้องมีมาตรการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เทียบเท่าหรือดีกว่ามาตรการตามนโยบายนี้
(7.3) ในกรณีที่มีการฝ่าฝืนมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของบริษัท จนเป็นเหตุให้มีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล หรือข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหลสู่สาธารณะ บริษัทจะดำเนินการแจ้งเจ้าของข้อมูลให้ทราบโดยเร็ว รวมทั้งแจ้งแผนการเยียวยาความเสียหายจากการละเมิด หรือการรั่วไหลของข้อมูลสู่สาธารณะในกรณีที่เกิดจากความบกพร่องของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทจะไม่รับผิดชอบในกรณีความเสียหายใดๆอันเกิดจากการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลที่สาม รวมถึงการละเลย หรือเพิกเฉยการออกจากระบบ (Log out) ฐานข้อมูล หรือระบบสื่อสารสังคมออนไลน์ของบริษัท โดยการกระทำของเจ้าของข้อมูลหรือบุคคลอื่นซึ่งได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล
(7.4) บริษัทฯ มีการดำเนินการสอบทานและประเมินประสิทธิภาพของระบบรักษาข้อมูลส่วนบุคคล โดยหน่วยงานตรวจสอบภายใน
บทที่ 8. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ เพื่อวัตถุประสงค์ ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องตามความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทฯ ตามที่ระบุ ในข้อ 5. (คุณภาพของข้อมูลส่วนบุคคล และวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ) ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านี้อาจอยู่ในประเทศไทยหรือนอกประเทศไทยก็ได้ บริษัทฯ แนะนำให้ท่านตรวจสอบนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านี้ เพื่อรับทราบและทำความเข้าใจว่าเครือข่ายผู้รับข้อมูล ส่วนบุคคลดังกล่าวดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
การใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จะไม่ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน ก่อนที่จะได้รับความยินยอม เว้นแต่เป็นข้อมูล ที่เก็บรวบรวมได้โดยไม่ต้องขอความยินยอม ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มาตรา 24 หรือมาตรา 26
ในกรณีที่บริษัทฯ จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ให้แก่บุคคลหรือนิติบุคคลภายนอก บุคคลหรือนิติบุคคลภายนอกนั้น จำเป็นต้องแจ้งวัตถุประสงค์ในการ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ให้บริษัทฯ ทราบก่อน และจำเป็นอย่างยิ่งที่ท่านต้องให้ความยินยอมเสียก่อน และต้องไม่นอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ที่ได้ให้ไว้แก่บริษัทฯ
บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน แก่บุคคลภายนอกผู้ร่วมวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อการวิเคราะห์และพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ การทำวิจัยหรือจัดทำข้อมูลทางสถิติ การบริหารกิจการ และการส่งเสริมการตลาด เช่น การประชาสัมพันธ์กิจกรรม ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการ ให้แก่ท่าน
ในกรณีที่บริษัทฯ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอม บริษัทจะบันทึกการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนั้นเป็นหนังสือหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อการตรวจสอบในภายหน้าได้
บทที่ 9. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศบริษัทฯ อาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ เช่น ไปยังผู้ให้บริการประสานงานกับลูกค้าที่อยู่ใน ต่างประเทศในการทำธุรกรรมกับบริษัทฯ ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกลางเพื่อการติดต่อประสานงาน เก็บรวบรวมข้อมูล และประสานงานกับลูกค้าในการทำนิติกรรม สถานกงสุล/สถานทูตไทย ในต่างประเทศ ณ ประเทศที่ลูกค้าอยู่ หน่วยงานจัดเก็บภาษีอากรในต่างประเทศซึ่งผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลบางรายอาจอยู่ในประเทศปลายทางหรือเป็นองค์การระหว่างประเทศที่ยังไม่ได้รับการรับรองว่ามีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเทียบเท่ากับมาตรฐาน ที่กำหนดไว้ในประเทศไทย ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้รับข้อมูล ส่วนบุคคลที่อยู่ในประเทศที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ยังไม่ได้รับการรับรองว่ามีมาตรฐานเทียบเท่า ประเทศไทยดังกล่าว บริษัทฯ จะปฏิบัติตามขั้นตอนและมาตรการที่เหมาะสมเพื่อให้การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน มีความปลอดภัย หรือเป็นกรณีที่การโอนดังกล่าวได้รับอนุญาตให้สามารถกระทำได้ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การเข้าทำสัญญากับผู้รับข้อมูลเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครอง ตามมาตรฐานการคุ้มครองที่เหมาะสมเทียบเท่ากับมาตรฐานที่กำหนดไว้ในประเทศไทย
บทที่ 10.การใช้คุกกี้ (Cookies)ในกรณีที่ท่านใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือช่องทางบริการออนไลน์อื่นๆ ของบริษัทฯ บริษัทฯ อาจทำการตรวจสอบถึงพฤติกรรมการสืบค้นข้อมูล และใช้บริการระบบเชื่อมโยงข้อมูล โดยส่วนหนึ่งของกระบวนการรักษา ความปลอดภัยของบริษัทฯ นั้น บริษัทฯ อาจใช้ระบบ “คุกกี้” (cookie) ในการตรวจสอบความถูกต้องแท้จริงของคำขอของ ผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ “คุกกี้” คือข้อมูลที่ได้ส่งจากเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือช่องทางบริการออนไลน์อื่นๆ ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน ของผู้เข้าเยี่ยมชม ในขณะที่ผู้เข้าเยี่ยมชมนั้นกำลังเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ โดย “คุกกี้” นั้นจะได้รับ การกำหนดโดยบริษัทฯ และจะสิ้นผลลงภายหลังจากการเชื่อมโยงข้อมูลในส่วนของบริษัทฯ “คุกกี้” ดังกล่าว อาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลบางประเภทซึ่งอาจถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อย่างไรก็ตาม ท่านมีสิทธิที่จะไม่รับการเชื่อมต่อคุกกี้ได้ โดยสามารถเลือกการตั้งค่าการใช้งานคุกกี้ได้ในเครื่องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของท่าน แต่การปฏิเสธไม่รับการเชื่อมต่อ คุกกี้อาจส่งผลกระทบให้การทำงานบางอย่างบนเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือช่องทางบริการออนไลน์อื่นๆ ของบริษัทฯอาจคลาดเคลื่อนไม่ถูกต้อง หรือมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
อนึ่ง หากท่านเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือช่องทางบริการออนไลน์อื่นๆ ของบริษัทฯ โดยใช้โปรแกรม สืบค้น (search engine) โปรแกรมสืบค้นดังกล่าวอาจจะมีการใช้งานคุกกี้ พื่อเก็บข้อมูลของท่าน บริษัทฯ จึงแนะนำให้ท่าน ตรวจสอบนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กำหนดโดยโปรแกรมสืบค้นดังกล่าวด้วย
บทที่ 11. การมีส่วนร่วมและสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ข้อจำกัดตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
(11.1) สิทธิในการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิเข้าถึง และ/หรือขอรับสำเนาของข้อมูล ส่วนบุคคล ของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูล ส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทฯ อาจขอให้ท่านยืนยัน ตัวตนก่อนการให้ข้อมูลตามที่ท่านร้องขอ
(11.2) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ ทำการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล ของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ หากข้อมูลนั้นไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือไม่ เป็นปัจจุบัน
(11.3) สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบ ของบริษัทฯ ในรูปแบบที่ได้มีการจัดระเบียบ และสามารถอ่านหรือใช้งานได้ในรูปแบบ อิเล็กทรอนิกส์ และมี สิทธิ ขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าวให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นภายใต้ เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด
(11.4) สิทธิในการคัดค้าน ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบางรายการได้
(11.5) สิทธิในการระงับการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล ของท่าน ได้ในบางกรณี
(11.6) สิทธิในการถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้แก่บริษัทฯ เพื่อการเก็บรวบรวมใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ทุกเมื่อ เว้นแต่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับสิทธิที่จะถอนความ ยินยอมตามที่กฎหมาย กำหนด หรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน
(11.7) สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในลักษณะที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด
(11.8) สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแล หากท่านเห็นว่าบริษัทฯหรือบุคคล อื่นซึ่งดำเนินการแทนในความรับผิดชอบของบริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือไม่เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ใคร่ ขอให้ท่าน โปรดติดต่อบริษัทฯ เพื่อให้บริษัทฯ ได้มีโอกาสรับทราบข้อเท็จจริง ชี้แจง ตลอดจนดำเนินการแก้ไข ข้อกังวลของท่าน ก่อนที่ท่านจะติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
หากท่านมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิของท่านตามที่ระบุข้างต้น โปรดติดต่อบริษัทฯ ตามรายละเอียดในข้อ 16. (ข้อมูลการติดต่อบริษัทฯ)
ทั้งนี้ การใช้สิทธิของท่านตามที่ระบุไว้ข้างต้นอาจถูกจำกัดโดยกฎหมายและข้อยกเว้นที่เกี่ยวข้อง โดยในบางกรณี บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น ในกรณีที่บริษัทฯ มีหน้าที่ตามกฎหมายหรือตามคำสั่งศาล ทั้งนี้ หากบริษัทฯ ปฏิเสธคำขอของท่าน บริษัทจะแจ้งเหตุผลให้ท่านทราบ บทที่ 12. ความรับผิดชอบของบุคคลที่ทำหน้าที่ควบคุมข้อมูลบริษัทฯ ได้กำหนดให้บุคลากรของบริษัทฯให้ความสำคัญและรับผิดชอบในการเก็บรวมรวมและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการที่กำหนดในนโยบายนี้
บทที่ 13.ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ที่ได้ แจ้งให้ทราบในนโยบายนี้ โดยบริษัทฯ จะจัดให้มีการตรวจสอบเพื่อให้สามารถดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล เป็นระยะเวลา 10 ปี หรือนานกว่านั้น เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาหรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล หรือตามที่ท่านร้องขอ หรือที่ท่านได้ถอนความยินยอมแล้วตามเงื่อนไขทางกฎหมาย อย่างไรก็ตาม บริษัทฯอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลานานกว่านั้นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบที่ใช้บังคับ ตลอดจนการปฏิบัติตามนโยบายภายในของบริษัทฯ และตามความจำเป็นอื่น
บทที่ 14.การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทฯ อาจเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือ ปรับปรุงหรือแก้ไขนโยบายนี้เป็นครั้งคราว โดยบริษัทฯ จะเผยแพร่นโยบาย ฉบับปรับปรุงแก้ไขลงใน www.greethailand.com และ/หรือในช่องทางตามที่ระบุไว้(ตามข้อ 4)และอาจขอความยินยอมจากท่านในกรณีที่ต้องได้รับความยินยอม เว้นแต่กฎหมาย จะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ในการนี้ บริษัทฯ ใคร่ขอให้ท่านโปรดตรวจสอบนโยบายนี้เป็นระยะ รวมทั้งก่อนใช้บริการ เพื่อตรวจดูการแก้ไขหรือปรับปรุงนโยบายนี้
บทที่ 15. การเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์อื่นในกรณีที่ท่านใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือช่องทางบริการออนไลน์อื่นๆ ของบริษัทฯ เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือบริการเหล่านั้นอาจมีการเชื่อมต่อไปยังเครือข่ายสังคมออนไลน์ แพลตฟอร์ม เว็บไซต์ หรือบริการอื่นที่มีบุคคลภายนอก เป็นผู้ดำเนินการ ทั้งนี้ บริษัทฯ ไม่สามารถรับรองข้อความหรือรับรองการดำเนินการใดๆ อีกทั้งไม่อาจรับผิดชอบใดๆ เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยเครือข่ายสังคมออนไลน์ แพลตฟอร์ม เว็บไซต์ หรือบริการดังกล่าว ในการนี้ บริษัทฯ แนะนำให้ท่านตรวจสอบนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเครือข่ายสังคมออนไลน์ แพลตฟอร์ม เว็บไซต์ หรือบริการที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์หรือบริการออนไลน์ของบริษัทฯ(หากมี)เพื่อรับทราบและทำความเข้าใจว่าเครือข่ายสังคมออนไลน์ แพลตฟอร์ม เว็บไซต์ หรือบริการดังกล่าวด˚าเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
บทที่ 16.ข้อมูลการติดต่อบริษัทฯในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย ข้อเสนอแนะนำ หรือข้อติชมใดๆ เกี่ยวกับนโยบายนี้ หรือในกรณีที่ท่านต้องการยื่นคำขอใช้ สิทธิใดๆ ตามที่ปรากฏในนโยบายนี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ และ/หรือ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ได้ที่
- บริษัท กรี อิเลคทริค (ไทยแลนด์) จำกัด เลขที่ 1988 ถนนพัฒนาการ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร 10250
- เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer) ของบริษัทฯ
โทรศัพท์ : 02-722-9661-5
ที่อยู่ : บริษัท กรี อิเลคทริค (ไทยแลนด์) จำกัด เลขที่ 1988 ถนนพัฒนาการ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร 10250
E-mail : Orachorn@greethailand.com
วันและเวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30 น. – 18.00 น.
ประกาศ ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2565
บริษัท กรี อิเลคทริค (ไทยแลนด์) จำกัด